Single ครองเมือง ธุรกิจแบบใหม่ของวงการเพลง

Single ครองเมือง ธุรกิจแบบใหม่ของวงการเพลง

ในอดีตวงการเพลงได้มีการพัฒนาทางด้านดนตรีเป็นไปอย่างช้า ๆ โดยเมื่อก่อนการทำดนตรี การร้อง ท่วงทำนอง หรือเนื้อหาที่ได้ มีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยศิลปะ ในด้านของการฟังเพลงหรือดนตรีนั้นเป็นสิ่งที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีความเฉพาะเจาะจงของตัวศิลปินที่มีความแตกต่าง ซึ่งศิลปินเหล่านี้นั้นเขาก็สามารถถ่ายทอดผลงานเพลงในรูปแบบฉบับของตัวเอง ยุคก่อนนั้นเป็นยุคที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านวัฒนธรรมที่ทั้งเกิดขึ้นใหม่และรับเข้ามาจากอิทธิพลของต่างประเทศทำให้รูปแบบการฟังเพลงหรือการเสพดนตรีในรูปแบบต่าง ๆ จึงมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ศิลปินในยุคก่อนนั้นหากจะกล่าวถึงผลงานเพลงของเขา ก็จะนึกถึงตลับเทปหรือมักจะออกมาเป็นในลักษณะในรูปของอัลบั้ม ซึ่ง 1 อัลบั้มนั้นก็จะประมาณ 8-12 เพลง ซึ่งศิลปินแต่ละคนนั้นจะเป็นที่รู้จักหรือมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับได้ จะต้องสามารถแต่งเพลงหรือมีผลงานของตัวเองที่เรียกว่าหลากหลายและครบเครื่องในหนึ่งอัลบั้ม ฉะนั้นยุคก่อน ๆ ก็จะมีหลากหลายผลงานเพลงที่ศิลปินหนึ่งคนนั้นจะสามารถทำได้คล้ายกับว่าหลากหลายแนวเพลงและอารมณ์ที่ศิลปินหนึ่งคนจะสามารถถ่ายทอดให้กับผู้ฟังได้จบในตลับเดียว แปลว่าความยากของการออกเพลงในยุคก่อนนั้น จะออกอัลบั้มเพลงนั้นต้องใช้ระยะเวลาในการทำค่อนข้างนานมากเลยทีเดียว พอยุคสมัยที่เริ่มเปลี่ยนไปและกาลเวลาที่เป็นบทพิสูจน์ในด้านดนตรีและการเลือกฟัง วัฒนธรรมการฟังเพลงของผู้คนต่อการฟังเพลง 1 อัลบั้มนั้น ก็จะติดใจอยู่ไม่กี่เพลง เพราะจะมีผลงานเพลงที่ไม่มากนักที่จะเป็นที่ติดหูติดใจในผู้ฟัง ทำให้ความสำคัญในเรื่องของการออกอัลบั้มที่มีหลายเพลงนั้นลดน้อยลง ปัจจุบันจึงทำให้ศิลปินหนึ่งคนนั้นมีผลงานที่ไม่มากนัก สังเกตได้จากแวดวงบันเทิงที่เคยเป็นนักร้องออกอัลบั้มมาก่อน ก็ผันตัวมาออกเป็น single แทน และปัจจุบันผู้ฟังก็มีความสนใจในการฟังเพลง single มากขึ้นเรื่อย ๆ การร้องเพลงเดียวที่สามารถใช้อารมณ์หลัก ๆ ในการดึงดูดผู้ฟังที่เป็นกลุ่มใหญ่ใหญ่เพื่อเป็นกลุ่มเป้าหมายในการเลือกฟังเพลงของศิลปินนั้น ๆ จึงทำให้ง่ายต่อการสร้างผลงานจึงทำให้ง่ายต่อการสร้างศิลปินขึ้นมาในแวดวงบันเทิงอีกด้วย ปัจจุบันจึงทำให้วงการบันเทิงนี้มีการขยายตัวเป็นวงกว้างทั้งด้านดนตรีที่มีความหลากหลายการสร้างสรรค์ผลงานการปั้นศิลปินขึ้นมาซึ่งสามารถปั้นกันได้อย่างง่ายดาย และสร้างผลงานขึ้นมาได้ด้วยตนเองจำนวนมาก จากช่องทางการนำเสนอที่มีอยู่ในสังคมปัจจุบันทำให้เกิดความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นศิลปินรุ่นเก่ารุ่นใหม่ รุ่นที่เรียกได้ว่าเป็น Gen ใหม่ในสังคมปัจจุบัน ซึ่งเราจะสังเกตได้ง่ายเห็นได้จากการผุดขึ้นของกิจการห้องอัดเสียงห้องซ้อมดนตรี…

วัฒนธรรมดนตรี อีสานฟีเวอร์

วัฒนธรรมดนตรี อีสานฟีเวอร์

เด้อนางเดอ  เด้อนางเดอ  เด้อนางเดอ เด้อ เด้อ นางเดอ…..ป้าบ ป้าบ ป้าบ ป้าบ !!!! นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักจังหวะนี้ “หมอลำ” ที่ กำลังเป็นที่ติดหู ทั่วบ้านทั่วเมือง ครอบงำไปทุกแขนงทุกซอกทุกซอย ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าจะภาคไหนก็ต่างรู้จักเพลงที่มีสำเนียงการร้อง ดนตรี ถ้อยคำที่เป็นภาษาอีสาน จริง ๆ แล้วเรารู้จักเพลงอีสานกันมานานพร้อม ๆ กับวัฒนธรรมดนตรีของทุก ๆ ภาคที่อยู่ในวงการ ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็ล้วนแต่มีความแตกต่างในด้านสำเนียง ดนตรี ถ้อยคำร้อง ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และได้ถ่ายทอดโดยศิลปินมากหน้าหลายตาในวงการเพลง                 แต่สิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมดนตรีอีสานมีความโดดเด่นคือท่วงทำนอง และเครื่องมือดนตรีที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมวิถีชีวิตคนอีสาน บวกกับคำร้องที่เป็นภาษาถิ่นดั้งเดิมที่ใช้เป็นเนื้อร้อง แน่นอนว่าแรก ๆ นั้นจะยังไม่ค่อยคุ้นชินกันสักเท่าไหร่กับศิลปินทางอีสานเมื่อเทียบกับคนทั้งประเทศ ทว่าศิลปินเองจะโด่งดังในท้องถิ่นตนเองหรือเป็นที่รู้จักกันในแวดวงทางภาคอีสานเป็นส่วนมาก ฉะนั้นแรกเริ่มในวงกว้างคนที่จะรู้จักหรือฟังดนตรีและวัฒนธรรมทางอีสานจะยังไม่มีมากนัก แต่จะมีศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก เช่น ต่าย อรทัย, ศิริพร อำไพพงษ์, ไมค์ ภิรมย์พร, ไผ่ พงศธร เป็นศิลปินอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้หยิบยกมานั้น…