เมื่อการทำ “ความดี” ของคนในปัจจุบันคือการแข่งขัน
ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เราถูกปลูกฝังให้ความทำดีมาตลอดจนโต ไม่ว่าไปที่ไหนผู้คนจะยกย่องคนที่ทำความดี ซึ่งมีทั้งคนที่ทำเพราะตั้งใจทำจริง ๆ กับคนที่ทำเพราะอยากได้รับการยกย่องเชิดชู แต่ว่าการทำความดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นในสังคมเราคงไม่มีตำรวจไว้จับผู้ร้าย คงไม่มีคุกไว้ขัง ดังนั้นการจะหาคนที่ทำความดีเพราะมีความตั้งใจจริงในสังคมปัจจุบันก็ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ จากกรณีข่าวกู้ภัย 2 กลุ่มตีกันเพราะแย่งผู้ประสบอุบัติเหตุถือเป็นข่าวที่ค่อนข้างน่าตกใจเลยทีเดียว จากที่ทราบกันดีว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม จะมีมูลนิธิต่าง ๆ มาคอยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจิตอาสาที่มีใจมุ่งมั่นอยากช่วยเหลือผู้อื่น นี่คือสิ่งที่เราคิดกัน แต่ปัจจุบันการทำความดีถ้าไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็หาได้ยากมากจริง ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นจริง กู้ภัยทั้ง 2 ฝ่ายควรจะระงับอารมณ์และสนใจผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่าจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท แล้วถ้าจุดมุ่งหมายไม่ใช่การทำความดีแล้วคืออะไร ในปัจจุบันมูลนิธิ สมาคม กู้ภัยต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมายราวกับดอกเห็ด มีหลายแห่งที่มีเจตจำนงและเป้าหมายที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นจริง ๆ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่อาศัยช่องโหว่บางอย่างในการทำให้เกิดผลประโยชน์แก่ตนเอง แต่ถ้าถามว่า แล้วการมาทำส่วนนี้ได้ผลประโยชน์อะไร เพราะการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือกู้ภัยต่าง ๆ ก็ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ แถมยังเป็นงานที่หนักและเหนื่อยด้วย และนี่คือผลพลอยได้ที่จะตามคือ เงินบริจาค ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าเก็บศพ หรือเงินสมทบทุนช่วยเหลือจากผู้มีจิตเมตตาต่าง ๆ เงินสนับสนุน สนับสนุนอุปกรณ์ พาหนะ ต่าง ๆ…