เรียนต่อสายอาชีพอะไร ถึงจะได้งานทำดีดี ?

เรียนต่อสายอาชีพอะไร ถึงจะได้งานทำดีดี ?

การศึกษาของไทยในปัจจุบัน ถือได้ว่ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดทำแผนการเรียนการสอนที่สามารถประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัย ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย มาจนถึงยุคปัจจุบัน แก้ว กล้า มานี ชูใจ ฯลฯ รวมไปถึงสื่อต่าง ๆ ที่มีการพัฒนานำมาใช้ประกอบการเรียนการสอน ทำให้เปิดมิติใหม่ของการเรียนที่มีวิสัยทัศน์และมุมมองที่กว้างออกไป ไม่ใช่แค่การเรียนที่มีอยู่แค่ในห้องเรียนสี่เหลี่ยมแคบ ๆ  หรือกระดาษโรเนียวสีเปื้อน ๆ หมึกจาง ๆ หรือแม้กระทั่งช่องทางและโอกาสในการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ ๆ อย่างการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตในการค้นคว้า หาข้อมูลเพื่อใช้ประกอบกับการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมให้สามารถพัฒนาทักษะได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะเพื่อการแข่งขันทางด้านวิชาการ ความสามารถ และการส่งเสริมผู้เรียนนั้นสามารถนำความรู้ในสายอาชีพนั้นไปใช้ได้จริงในอนาคต                 เป็นคำถามที่ใครหลาย ๆ คนยังสงสัยและคิดไม่ตกเลยว่า หากจะให้เลือกเรียนในสาขาวิชาชีพใดก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจของใครหลาย ๆ คนที่กำลังจะตัดสินใจว่า อนาคตต่อไปนี้จะไปในทิศทางใด และเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็กลัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ว่าจะมีผลอย่างไรต่ออนาคต ยังคงกังวลอยู่ในใจว่าถ้าหากเลือกสิ่งนี้แล้วจะดีต่อตัวเองหรือไม่ แน่นอนว่าหากเลือกผิดหรือไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจก็ย่อมทำให้ยากต่อการเรียนรู้ และส่งผลที่ไม่ค่อยดีต่อความรู้สึกและจิตใจมากนัก ท้ายที่สุดแล้วก็ส่งผลให้ตัวเองไม่มีความสุขและเป้าหมายที่ตั้งใจนั้นก็สำเร็จได้ยากขึ้น หลาย ๆ คนกลัวว่าจะเสียเวลา หลาย ๆ คนกลัวว่าจะคิดผิด เพราะการที่ยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึก ความสามารถของตนเองว่าสิ่งไหนที่รักและทำได้อย่างแท้จริง สิ่งหนึ่งที่จะสามารถทำให้ตนเองนั้นเลือกเรียนในสายอาชีพที่ถนัดคือการนำเอาความชอบหรือความถนัดของตนเอง มาทำการวิเคราะห์ร่วมกับลักษณะนิสัยพื้นฐานของตนเอง มุมมอง ข้อดี…

ดูแลความรักยังไง ให้ ยั่งยืน??

ดูแลความรักยังไง ให้ ยั่งยืน??

เคยสงสัยกันไหมว่า? ทำไมความรักบางทีก็ดูสวยงาม บางทีก็ดูโหดร้าย บางครั้งก็ดูไม่ค่อยมีความหมาย บางครั้งก็ยิ่งใหญ่เกินจะไขว่คว้า เป็นสิ่งที่ยากนักที่จะพูดถึงเรื่องความรักบนโลกใบนี้ ถ้าให้ 100 คน มาพูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความรัก ว่าความรักมันคืออะไร มีความหมายต่อชีวิตคุณยังไง หากให้พูดก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป 100 ความคิดเห็นกันเลยทีเดียว เพราะว่าทุกคนต่างก็ใช้ความรู้สึกของตนเองในการเชื่อมโยงเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่เกิดขึ้นทั้งหมดในชีวิตเพื่อแสดงออกมาเป็นมุมมองของแต่ละคน แต่ทุก ๆ มุมมองของความรักนั้นก็ล้วนมาจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้น มุมมองที่มาจากเรื่องราวที่ได้พบเจอผ่านการออกแบบและสื่อสารความหมายต่อกันและกัน เกิดเป็นพฤติกรรมที่เลือกปฏิบัติที่จำเป็นต้องเอื้อเฟื้อและตอบสนองกัน ในที่นี้กล่าวคือความรักแบบคู่ชีวิต ที่กำลังจะนำเสนอให้เห็นว่า หากอยากให้มีความยั่งยืนนั้นควรเป็นอย่างไร?                 น่าเสียดายนักที่หลาย ๆ ครั้งความตั้งใจของคนเราที่อยากให้เป็น “กลับไม่เป็นดั่งใจหวัง” ความผิดหวังนำพาสู่ความหวาดกลัว ความไม่เชื่อมั่น เมื่อหลาย ๆ คนต้องเจอเรื่องราวที่ผิดหวังจากความรัก เพราะอยากให้รักเป็นดั่งใจหวังและปรารถนาแต่ก็ได้มาเพียงเศษเสี้ยวความรู้สึก ทำให้หลาย ๆ คู่ต้องเลิกรากันไปเพราะเหตุผลมากมายที่เอามาใช้เพื่อหาทางที่จะไม่เข้าใจกัน แน่นอนว่าหากความรักที่มีข้อแม้ตั้งแต่แรกโดยไม่ได้รับความชัดเจนหรือความเข้าใจกันแล้วนั้นย่อมมีวันที่ต้องเกิดปัญหาตามมา ในที่นี้กล่าวคือ หากความรักที่จะยั่งยืนได้จริงนั้นคือ ความรักที่มีคนสองคนยอมรับและจะหาวิธีเข้าใจกันสุดแล้วแต่จะมีปัญหาหรือข้อข้องใจอะไรก็ต้องยอมรับกันก่อนว่าจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันและยอมรับที่จะปรับตัวเข้าหากัน ไม่เพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่หมายถึงคนทั้งสองคนที่จะต้องทำด้วยความรู้สึกอันแท้จริง ความรักที่ดีคือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน รักที่ดีคือรักที่สามารถเติมเต็มทุกเรื่องราวของกันและกัน ความรักที่ดีคือคอยอุ้มชูและสนับสนุนซึ่งกันและกันแต่คนเราหลาย ๆ คนมักยึดติดกับตัวเองมากจนเกินไป เมื่อต้องการอะไรก็ต้องได้รับอย่างนั้น แน่นอนว่ามันเป็นพื้นฐานความต้องการของมนุษย์โดยทั่วไปอยู่แล้วในเรื่องของความจำเป็นหรือตอบสนองสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จ ทำให้ความคิดมักติดอยู่ในหัวเสมอว่าด้านใดก็ไม่สำคัญเท่ามุมมองของตนเองด้านเดียว จนลืมไปว่าอีกมุมมองหนึ่งที่ซึ่งควรเข้าใจและลืมไปว่าเคยได้ตกลงยอมรับที่จะปรับตัวเข้าหาคนที่ซึ่งเป็นคนรักนั้นมันได้หายไปเพราะความคิดที่มีด้านเดียว จนเกิดเป็น “ความคิดที่เห็นแก่ตัว”…

อยู่ยังไงให้ชีวิตมี …ความสุข

อยู่ยังไงให้ชีวิตมี …ความสุข

บางครั้งชีวิตคนเราก็ไม่ได้สมหวังไปซะทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องที่เราตั้งใจและคาดหวังก็ไม่เป็นดังหวังอย่างพลาดท่า คนทุกคนต่างใช้ชีวิตในทุกวันก็เพื่อความอยู่รอด เพื่อทำในสิ่งที่รักและตั้งใจ เพื่อการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต แต่จริง ๆ แล้วคนเราต้องการแค่นี้จริง ๆ หรือ เชื่อว่าหลาย ๆ คนจะเคยตั้งคำถามบ่อยครั้งในชีวิตว่า ทำไปทำใมนะ? ทำไมเราต้องทำอย่างนี้ เราต้องทำสิ่งนี้เพื่ออะไรกัน เมื่อไหร่ที่มีคำถามเข้ามานั่นแปลว่าสัญญาณนั้นกำลังจะบอกเราว่าเรากำลังต้องการคุณค่าจากสิ่งที่ทำ                 เราใช้เวลาไปกับการเรียนรู้และการทำงานไปในแต่ละวันมากกว่าการได้พักผ่อนหรือวันหยุดที่เราควรจะมี การเลือกหาความสุขให้ตัวเองนั้นมีหลากหลายรูปแบบและหลายวิธีที่แต่ละคนถนัด หรือความชอบที่แตกต่างกันไป บางคนเลือกหาความสุขด้วยการไปท่องเที่ยวเปิดโลกกว้างให้กับตนเอง หรือบางคนอาจเลือกที่จะนอนดูหนังสักเรื่องหนึ่งที่ตัวเองชอบอยู่กับบ้าน บางคนเลือกฟังเพลง ร้องเพลง วาดภาพ ช้อปปิ้ง หรือการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง แต่ละคนก็มีกิจกรรมที่ทำแตกต่างกันไปต่างก็ล้วนแต่เป็นเรื่องที่สร้างความสุขให้กับตัวเอง กล่าวคือ คนที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกใบนี้คงเป็น “คนที่มีความสุข” จึงไม่แปลกนักที่คนที่มีอายุยืนที่สุดคือคนที่มีความสุขที่สุด เพราะความสุขที่แท้จริงยิ่งกว่ายาขนานชั้นดี ไม่ใช่เป็นเพียงคำที่ใช้เรียกความรู้สึก แต่หมายถึงปฏิกิริยาที่มีสารบางอย่างหลั่งออกมาที่เรียกว่า “สารแห่งความสุข” ความมหัศจรรย์ของความสุขจึงทำให้ร่างกายและหัวใจแข็งแรง เรียกได้ว่ามีความต้านทานต่อโรค ต่อสภาวะที่รุมเร้าหรือปัจจัยเสี่ยงต่อการคุกคามของอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ ในอาการที่ป่วย ทำให้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว อย่างรูปแบบการใช้ดนตรีบำบัดในคนป่วยที่สามารถทำให้สุขภาพร่างกายและจิตใจเข้มแข็งขึ้นมาได้เพราะเกิดจากความสุขแม้จะไม่ได้ทานยา ต่างจากคนที่ทานยาอย่างเดียวแต่ไม่ได้รับการบำบัดทางดนตรี สารมหัศจรรย์นี้ทำงานในร่างกาย ยิ่งหากเป็นคนปกติไม่ได้เจ็บป่วยแต่อย่างใด ความสุขนี้ถือว่าเป็นเกราะหรือภูมิต้านทานที่ดีให้กับตัวเองได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะจริง ๆ แล้วเราอาจมองข้ามไปว่าชีวิตทุกวันนี้เราเพียงต้องการทำเพื่อประโยชน์ที่จะได้รับ ทำเพื่อสร้างความมั่นคงและทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ จนลืมไปว่าแท้ที่สุดแล้วเราเพียงต้องการความสุขในชีวิต หากคุณค่าที่ควรจะได้รับในชีวิตคือสิ่งนี้แล้ว ทำไมเราจึงไม่รีบหารีบทำรีบสร้างความสุข…

ความพอเพียง แบบไหนถึงเรียกว่า “เพียงพอ”

ความพอเพียง แบบไหนถึงเรียกว่า “เพียงพอ”

ในยุคปัจจุบันการแข่งขันทางสังคมในด้านต่าง ๆ ค่อนข้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว และถูกพัฒนาไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นโดยมนุษย์ ที่มีความตั้งใจตอบสนองความต้องการและปัจจัยพื้นฐานที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ความพยายามและการพัฒนาเพื่อต่อยอดทางด้านความคิด และการออกแบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสามารถตอบโจทย์ความต้องการของมนุษย์ หรือเพื่อการแข่งขันทางการตลาด อันนำมาซึ่งปัจจัยสำคัญที่จะพาไปสู่การพัฒนาที่สามารถเป็นฐานเศรษฐกิจที่มั่งคั่งและมั่นคง โดยการประกอบอาชีพปัจจุบันที่มีการแข่งขันทางการตลาดสูง การขนส่ง และสาธารณูปโภคต่าง ๆ จึงส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์ บวกกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นด้วย จนถึงยุคปัจจุบันไม่มีอะไรที่จะยิ่งใหญ่และมีอำนาจมากไปกว่า “เงิน” อันจะเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ที่ทำเพื่อการตอบสนองความต้องการของตนเอง ความร่ำรวย หรือสังคมที่มีระดับชนชั้น นอกเหนือจากสิ่งเหล่านี้ก็ยังมีการแข่งขัน การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น การเอารัดเอาเปรียบ แม้กระทั่งเกิดปัญหามากมายที่มีในสังคมระหว่างชนชั้น การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ที่มาพร้อม ๆ กับความต้องการของมนุษย์ ด้วยกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้แนวทางกับคนไทยเกี่ยวเรื่องของความพอเพียง การใช้ชีวิตอยู่บนพื้นฐานของความพอดี และการออกแบบการใช้ชีวิตด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ทำให้ผู้คนมากมายเห็นความสำคัญและให้ความสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางการดำรงชีวิตด้วยหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่เชื่อว่าจะส่งผลให้ชีวิตของตนเองนั้นหากนำหลักความพอเพียงมาใช้ก็จะทำให้มีความพอดีและหลบหลีกจากปัญหาทางสังคมที่เกิดขึ้นมากมายนั้น เช่น การทำเกษตรสวนพอเพียง การออกแบบพื้นที่ในการทำเกษตรที่ปลอดภัย การรณรงค์การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลง ทั้งนี้ก่อให้เกิดเป็นการเรียนรู้และความสนใจของกลุ่มคนมากมายในสังคมที่อยากใช้ชีวิตแบบพอเพียง ทั้งหน่วยงานราชการ กลุ่มประชาชน และผู้คนที่สนใจมากมายที่เห็นความสำคัญและส่งเสริมผลักดันให้เกิดเป็นกลุ่มชุมชนพอเพียง และส่งเสริมให้เกษตรกร ประชาชนทุกชนชั้นได้เรียนรู้ถึงความพอเพียงในชีวิตที่สามารถพาตนเองและคนรอบข้างสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างพอดีไม่เกิดปัญหาและสามารถพึ่งพาตนเองได้รวมไปถึงพึ่งพากันและกัน  เพื่อที่จะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้ชุมชน สังคม มีความมั่นคงอย่างแท้จริง มีความเข้มแข็ง เข้าใจซึ่งกันและบนพื้นฐานของความพอเพียง…

เมื่อกฎระเบียบไม่ได้มีไว้แหก แต่กฎระเบียบมีไว้เพื่อความปลอดภัยของชีวิต

เมื่อกฎระเบียบไม่ได้มีไว้แหก แต่กฎระเบียบมีไว้เพื่อความปลอดภัยของชีวิต

จากข่าวที่ค่อนข้างสะเทือนใจเมื่อชายคนหนึ่งเข้าไปเล่นน้ำในบ่อน้ำเขตหวงห้ามเพราะน้ำลึก จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในบ่อน้ำ เป็นอุทาหรณ์ให้หลาย ๆ คนที่ละเลยกับป้ายเตือนหรือคนที่ชอบฝ่าฝืนกฎระเบียบ ข้อตกลง และข้อบังคับ กรณีแบบเหตุการณ์นี้ไม่ใช่กรณีแรก แต่ยังมีอีกหลายกรณีที่คนฝ่าฝืนกฎและสุดท้ายจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า แต่เหตุผลอะไร ทั้ง ๆ ที่มีป้ายเตือน หรือข้อห้าม แต่คนเราก็ยังเลือกที่จะฝ่าฝืน ความท้าทายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนเราชอบทำมากที่สุด การได้ฝ่าฝืนกฎระเบียบ การแหกกฎ หรือการแสดงออกที่แตกต่างเป็นความเชื่อที่ว่า การทำสิ่งเหล่านี้ทำให้ตัวเองดูพิเศษและดูเหนือกว่าคนปกติที่ทำตามข้อบังคับต่าง ๆ หากเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังพอเป็นความท้าทาย ความตื่นเต้นในชีวิต แต่ว่ามันมักจะไม่จบแค่นั้น เมื่อความท้าทายแต่ละคนที่ได้มา มักแลกมาด้วยชีวิตเสมอ นอกจากความท้าทายแล้ว ก็เป็นความเผอเรอ ไม่สนใจหรือใส่ใจสิ่งรอบข้าง ไม่สังเกตป้ายเตือน หรือสัญลักษณ์ห้ามเข้าต่าง ๆ ความสะเพร่า เป็นสาเหตุที่นำพาไปสู่การได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ไม่ต่างกับการรณรงค์เกี่ยวกับการลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลต่าง ๆ แต่น่าแปลกคนส่วนใหญ่กลับรู้สึกไม่พอใจ ทั้ง ๆ ที่เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ต่อตัวของคุณเองทั้งนั้น กลับมองว่าเป็นรุกล้ำพื้นที่ส่วนตน หรือสร้างความน่ารำคาญใจ และเลือกที่จะตามใจตนเอง เพราะอยากแสดงความต่าง ขาดการยับยั้งชั่งใจ ฝ่าฝืนกฎระเบียบไปด้วยความคึกคะนอง โชคร้ายมาจบที่ครอบครัวต้องมาเสียใจรับเคราะห์จากการกระทำโดยประมาท ที่ต้องแก้ไขอันดับแรก คือทัศนคติของเราต่อกฎระเบียบและข้อบังคับ หลายคนมองว่ามันยุ่งยาก วุ่นวาย…

ชนชั้นทางสังคม ใครกันแน่ที่เป็นคนแบ่ง

ชนชั้นทางสังคม ใครกันแน่ที่เป็นคนแบ่ง

จากกรณีข่าวของช่างภาพเยาวชนจิตอาสา ที่ได้ร่วมบันทึกภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร เพื่อส่งไปยังหอจดหมายเหตุ โดยผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่งได้ Post รูปเยาวชน 5 คน ในมือของแต่ละคนมีกล้องขนาดใหญ่อยู่ด้วย แต่ก็มีกระแสดราม่าเกิดขึ้น เมื่อมีผู้ใช้โซเชียลบางส่วนได้วิจารณ์เกี่ยวกับราคาของกล้องที่ค่อนข้างแพงและผู้ครอบครองยังเป็นเยาวชนที่อายุยังน้อย เลยได้เกิดคำวิจารณ์เช่น “ไม่รวยเป็นจิตอาสาไม่ได้นะจ๊ะงานนี้ แต่ก็โอนะทำให้ฟรี ๆ” ซึ่งก็มีผู้ใช้โซเชียลจำนวนมากที่ออกมาปกป้องว่า น้องมีจิตอาสาที่จะช่วยเหลือสังคมและการที่ครอบครัวน้องจะร่ำรวยมีเงินซื้อกล้องตัวแพง ๆ ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะถือเป็นการสนับสนุนเด็ก ๆ ในสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่ การแบ่งชนชั้นทางสังคมไทยมีมาตั้งแต่สมัยอดีตและปัจจุบันก็ได้บางเบาลงไปค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้สิ่งที่ตนเองถูกปลูกฝังตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ จากพ่อแม่ หรือสื่อละครมาขีดเส้นแบ่งให้ตนเองแตกต่างจากคนอื่น จากกรณีนี้ยังเห็นได้ว่า ภาพการแบ่งชนชั้นทางสังคมของไทยยังคงมีอยู่ ในขณะที่หลายคนเรียกร้องให้เกิดความเท่าเทียมกันทางสังคมแต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว ตนเองก็มีส่วนในการแบ่งชนชั้น ไม่ว่าจะเป็น รวยจน เก่งหรือไม่เก่ง มีชื่อเสียงหรือไม่มี หากเราได้ลองติดตามสังคมอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าความคิดของคนจำนวนไม่น้อยที่ตีกรอบให้กับตนเองโดยอ้างสิ่งต่าง ๆ ดังกล่าวและแสดงออกมาแบบดราม่าข้างต้น หลายคนแสดงออกการแบ่งชนชั้นของตนเองมาในรูปแบบความอิจฉา กลายเป็นโกรธเกลียด หรือไม่ชอบใจบุคคลที่แตกต่างจากตนเองไปเลย แม้ว่าจะไม่มีใครมานั่งบอกหรือต่อว่า แต่กลุ่มคนลักษณะนี้จะชิงแบ่งแยกตนเองออกก่อน อีกนัยหนึ่งก็เพื่อแสดงจุดยืนและปกป้องตนเอง คิดว่าการกระทำดังกล่าวจะช่วยให้ตนเองรู้สึกสบายใจและทัดเทียมมากยิ่งขึ้น อาจเพราะมีปมภายในจิตใจหรืออยากมีแบบคนอื่นแต่ไม่มีแรงฮึดมากพอที่จะทำ แต่ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม เราจะมักเห็นคนที่มักแสดงความเห็นแนวนี้ในโลกโซเชียลเสมอ หากมีคนรวยกว่า หน้าตาดีกว่า เก่งกว่า ก็จะมานั่งตัดพ้อกับโลกและกับตนเองว่าคงไม่มีและพยายามหาข้อเสียอื่น ๆ มาหักล้างข้อดีหรือความโชคดีของคนอื่น…

เพราะตัวหนังสือไม่มีเสียง ปัญหาหลักของโลกออนไลน์

เพราะตัวหนังสือไม่มีเสียง ปัญหาหลักของโลกออนไลน์

ถ้าข้อดีของโลกออนไลน์คือความรวดเร็ว ความสะดวกในการติดต่อสื่อสาร แต่ทำไมถึงยังมีปัญหาตามมาในรูปแบบการวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นได้อย่างสนุกปากมากกว่าการที่เราจะกล้าพูดออกไปในชีวิตจริง พอเป็นแค่ตัวหนังสือที่สามารถพิมพ์ได้ง่ายและรวดเร็ว หลายคนจึงขาดการยับยั้งชั่งใจ ด้วยความสะดวกและทั่วถึงง่ายของโลกออนไลน์ ทำให้ความเป็นส่วนตัวไม่มีอยู่จริง หลายครั้งที่เกิดเหตุกระทบกระทั่งบนโลกออนไลน์ ส่วนหนึ่งมาจากความตั้งใจของผู้ใช้ และมีจำนวนไม่น้อยเลยที่มาจากความผิดพลาดของการสื่อสารในรูปแบบการพิมพ์ผ่านตัวหนังสือ ดังกรณีของผู้ใช้โซเชียลรายหนึ่ง ที่ได้มีการ Post  ลงใน Account ส่วนตัวของตัวเองบ่นเรื่องการเดินทางในชีวิตประจำวันมีใจความว่า “อยากอ้วกแต่อยู่บนบีทีเอส อีกสถานีเดียวอดทนไว้กู” ซึ่งหลังจากผู้ใช้รายนี้ได้ Post ลงไปสักพัก ก็มี Account สาธารณะของขนส่งสาธารณะดังกล่าวออกมาตอบใจความว่า “ตกลงอ้วกไหมจ๊ะ จะอ้วกแท้ ๆ ยังหยิบมือถือมาทวิต ครั้งหน้าถ้ารู้สึกไม่สบายสะกิดเจ้าหน้าที่ได้เลยครับ บีทีเอสมีห้องพยาบาลทุกสถานีครับ” หลังจากข้อความนี้ของ Account ดังกล่าวได้ Post ลงไป ก็มีกระแสวิจารณ์อย่างหนักกับคำว่า “ตกลงอ้วกไหมจ๊ะ จะอ้วกแท้ ๆ ยังหยิบมือถือมาทวิต” ว่าเป็นข้อความที่ดูเหมือนไม่ได้แสดงความห่วงใยต่อผู้โดยสารอย่างแท้จริง และการที่ผู้โดย Post เรื่องราวของตนเองในพื้นที่ส่วนตัวของตน ไม่ได้มีการ mention ถึงหรือมีความประสงค์ให้แก้ไขหรือปรับปรุง Account สาธารณะดังกล่าวไม่ควรรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็มีทั้งคนที่อยู่ฝั่งผู้ใช้โซเชียล และฝั่ง Admin ของ Account…

เมื่อการทำ “ความดี” ของคนในปัจจุบันคือการแข่งขัน

เมื่อการทำ “ความดี” ของคนในปัจจุบันคือการแข่งขัน

ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ เราถูกปลูกฝังให้ความทำดีมาตลอดจนโต ไม่ว่าไปที่ไหนผู้คนจะยกย่องคนที่ทำความดี ซึ่งมีทั้งคนที่ทำเพราะตั้งใจทำจริง ๆ กับคนที่ทำเพราะอยากได้รับการยกย่องเชิดชู แต่ว่าการทำความดีก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นในสังคมเราคงไม่มีตำรวจไว้จับผู้ร้าย คงไม่มีคุกไว้ขัง ดังนั้นการจะหาคนที่ทำความดีเพราะมีความตั้งใจจริงในสังคมปัจจุบันก็ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ จากกรณีข่าวกู้ภัย 2 กลุ่มตีกันเพราะแย่งผู้ประสบอุบัติเหตุถือเป็นข่าวที่ค่อนข้างน่าตกใจเลยทีเดียว จากที่ทราบกันดีว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุใด ๆ ก็ตาม จะมีมูลนิธิต่าง ๆ มาคอยช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นจิตอาสาที่มีใจมุ่งมั่นอยากช่วยเหลือผู้อื่น นี่คือสิ่งที่เราคิดกัน แต่ปัจจุบันการทำความดีถ้าไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องก็หาได้ยากมากจริง ๆ จากเหตุการณ์ดังกล่าว หากมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นจริง กู้ภัยทั้ง 2 ฝ่ายควรจะระงับอารมณ์และสนใจผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่าจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท แล้วถ้าจุดมุ่งหมายไม่ใช่การทำความดีแล้วคืออะไร ในปัจจุบันมูลนิธิ สมาคม กู้ภัยต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมายราวกับดอกเห็ด มีหลายแห่งที่มีเจตจำนงและเป้าหมายที่ต้องการจะช่วยเหลือผู้อื่นจริง ๆ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่อาศัยช่องโหว่บางอย่างในการทำให้เกิดผลประโยชน์แก่ตนเอง แต่ถ้าถามว่า แล้วการมาทำส่วนนี้ได้ผลประโยชน์อะไร เพราะการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือกู้ภัยต่าง ๆ ก็ต้องใช้ทั้งแรงกายแรงใจ แถมยังเป็นงานที่หนักและเหนื่อยด้วย และนี่คือผลพลอยได้ที่จะตามคือ เงินบริจาค ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าเก็บศพ หรือเงินสมทบทุนช่วยเหลือจากผู้มีจิตเมตตาต่าง ๆ เงินสนับสนุน สนับสนุนอุปกรณ์ พาหนะ ต่าง ๆ…

การขนส่งสาธารณะของไทยเหมาะสมแล้วหรือกับการขึ้นราคา

การขนส่งสาธารณะของไทยเหมาะสมแล้วหรือกับการขึ้นราคา

ปัญหาการคมนาคมของไทยมีมากขึ้นทุกวี่วัน ไม่ว่าจะเป็นปัญหารถติด ปัญหาเส้นทางจราจร ปัญหามอเตอร์ไซค์บนทางเท้า แต่ว่าที่ผ่านมาก็ยังไม่มีการแก้ไขที่ชัดเจนหรือได้ผลเลย ปัญหาเดิมซ้ำ ๆ ยังคงเกิดขึ้นมาตลอด และดูไม่มีทีท่าว่าจะมีใครที่จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเมื่อเกิดปัญหาต่าง ๆ มากมาย การขนส่งสาธารณะจึงเป็นอีกตัวเลือกสำคัญที่คนหันมาใช้กัน แต่ว่าเมื่อมองเห็นราคาค่าโดยสารที่ปรับเพิ่มขึ้นแล้ว มีผู้ใช้บริการจำนวนไม่น้อยที่มีคำถามในใจว่าเหมาะสมแล้วหรือ หากลองดูรูปแบบของขนส่งสาธารณะของบ้านเราก็จะสามารถแบ่งประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ รถเมล์ รถเมล์เป็นขนส่งสาธารณะที่คนนิยมใช้ค่อนข้างมาก เพราะราคาถูกและเส้นทางก็มีหลากหลาย แต่การปรับขึ้นราคาของรถเมล์ก็ส่งผลต่อคนจำนวนไม่ได้น้อย ส่วนใหญ่มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ายังไม่สมเหตุสมผล หากเป็นรถ ขสมก. ที่เป็นรถแอร์ก็ยินยอมได้ เพราะด้วยคุณภาพของรถและการบริการ คนก็ยอมจ่ายในราคาที่เพิ่มขึ้น แต่หากเป็นรถร่วมที่สภาพค่อนข้างเก่าและการบริการที่ไม่ได้ค่อยได้มาตรฐานหลายคนก็แย้ง รถไฟฟ้า BTS MRT และ Airport Link นับว่าเป็นขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมสำหรับคนเมือง เพราะความรวดเร็วทันใจ คนจึงนิยมใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง แต่ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้นซึ่งสวนทางกับคุณภาพของรถไฟฟ้าที่เก่าลง โดยเฉพาะ BTS ที่เกิดเหตุขัดข้องบ่อยจนส่งผลกระทบต่อผู้โดยสาร เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในโลกออนไลน์และสร้างความเดือดร้อนให้กับคนทำงานเป็นอย่างมาก รถทัวร์ รถบัสโดยสาร สำหรับคนที่ต้องเดินทางเป็นหมู่คณะหรือเดินทางไกล จะนิยมใช้โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่จะคึกคักมาก และรถมีไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร รถตู้ รถตู้มีบริการอยู่ทุกที่ทั่วประเทศ และค่อนข้างมีปัญหาบ่อย ไม่ว่าจะเป็นการอัดผู้โดยสารเกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด หรือการรับส่งผู้โดยสารนอกส้นทาง รถไฟ เป็นขนส่งสาธารณะที่คนนิยมใช้ในการเดินทางไกล…

ปริญญาที่ต้องแลกมากับความพยายามและหยาดเหงื่อของพ่อแม่

ปริญญาที่ต้องแลกมากับความพยายามและหยาดเหงื่อของพ่อแม่

ในวันรับปริญญาคงเป็นวันที่บัณฑิตทุกคนจะต้องภาคภูมิใจกับความสำเร็จของตัวเองเป็นอย่างมาก แต่รู้หรือไม่ว่าในวันนั้นมีคนที่เขาภูมิใจมากกว่าตัวบัณฑิตเสียอีก คนๆ นั้นก็คงหนีไม่พ้นคนเป็นพ่อเป็นแม่ เพราะใบปริญญาที่ลูกถืออยู่ในมือนั้น คือหยาดเหงื่อและแรงกายแรงใจที่พ่อกับแม่จะหาให้ลูกได้                 เรื่องรับปริญญาที่กำลังกลายเป็นกระแสที่ฮือฮาในโลกโซเชียลขณะนี้ เป็นคลิปวีดีโอหนึ่งที่ลูกสาวเรียบจบและรับปริญญา ณ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง และได้รับการเซอร์ไพรส์จากผู้เป็นพ่อด้วยไปไวนิลขนาดใหญ่ ที่ระบุข้อความว่า “อาจารย์ขว้างเกรด 4 มาให้ ด้วยความตกใจกูเลย “หลบทัน” #เกรดอัปรีย์แต่หน้าตาดีค่ะ ขอบใจคุณลูกจบให้กูสักที” เมื่ออ่านดูแล้วก็กลายเป็นเรื่องขำๆ ที่คุณพ่อแซวลูกสาวในวันรับปริญญา แต่ถ้ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง ภายใต้ข้อความที่แซวจากคุณพ่อนั้น ก็คงซ่อนความหายเหนื่อย ความโล่งใจ และความยินดีกับความสำเร็จของลูกในวันนี้ด้วย เพราะกว่าที่ลูกจะมีวันนี้ได้คงไม่ต้องให้อธิบายว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเหนื่อยแค่ไหน                 แต่กระนั้น การรับปริญญาก็เป็นแค่เพียงก้าวแรกของชีวิตที่จะทำให้การดำเนินชีวิตต่อจากนี้ไปเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบต่างหาก เพราะชีวิตในโลกของการทำงานมันช่างแตกต่างกับโลกแห่งการเรียนอย่างสิ้นเชิง เช่นนั้นแล้ว จงเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเริ่มต้นก้าวเข้าสู่โลกอีกใบของชีวิตได้เลย ซึ่งหากใครที่เพิ่งเป็นบัณฑิตจบใหม่และยังคงเคว้งคว้างอยู่ในอากาศไม่รู้จะไปทางไหนดี แนะนำเลยว่าให้เริ่มจากเคล็ดลับง่ายๆ เพียง 3 ข้อ ได้แก่                 1. ค้นหาตัวตน                 หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนให้เริ่มจากตัวเองก่อน ลองหาตัวตนของตัวเองให้เจอว่ารักหรือชอบที่จะทำอะไร อะไรที่ทำแล้วจะมีความสุขมากที่สุด อะไรที่ทำแล้วจะไม่มีวันรู้สึกเบื่อ และอะไรที่ทำแล้วสามารถพูดได้อย่างเต็มบอกว่ามันคือความรัก นั้นแหละคือสิ่งที่ชอบ ถ้าไม่เริ่มจากสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบก่อนต่อให้พยายามหรือฝืนทำมากแค่ไหนก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จ หรืออาจจะประสบความสำเร็จได้แต่จะไม่มีความสุขกับมัน                 2. ลงมือทำ…