วัฒนธรรมดนตรี อีสานฟีเวอร์

วัฒนธรรมดนตรี อีสานฟีเวอร์

เด้อนางเดอ  เด้อนางเดอ  เด้อนางเดอ เด้อ เด้อ นางเดอ…..ป้าบ ป้าบ ป้าบ ป้าบ !!!! นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จักจังหวะนี้ “หมอลำ” ที่ กำลังเป็นที่ติดหู ทั่วบ้านทั่วเมือง ครอบงำไปทุกแขนงทุกซอกทุกซอย ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศทุกวัย เพราะไม่ว่าจะภาคไหนก็ต่างรู้จักเพลงที่มีสำเนียงการร้อง ดนตรี ถ้อยคำที่เป็นภาษาอีสาน จริง ๆ แล้วเรารู้จักเพลงอีสานกันมานานพร้อม ๆ กับวัฒนธรรมดนตรีของทุก ๆ ภาคที่อยู่ในวงการ ไม่ว่าจะเป็นภาคไหนก็ล้วนแต่มีความแตกต่างในด้านสำเนียง ดนตรี ถ้อยคำร้อง ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และได้ถ่ายทอดโดยศิลปินมากหน้าหลายตาในวงการเพลง                 แต่สิ่งที่ทำให้วัฒนธรรมดนตรีอีสานมีความโดดเด่นคือท่วงทำนอง และเครื่องมือดนตรีที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมวิถีชีวิตคนอีสาน บวกกับคำร้องที่เป็นภาษาถิ่นดั้งเดิมที่ใช้เป็นเนื้อร้อง แน่นอนว่าแรก ๆ นั้นจะยังไม่ค่อยคุ้นชินกันสักเท่าไหร่กับศิลปินทางอีสานเมื่อเทียบกับคนทั้งประเทศ ทว่าศิลปินเองจะโด่งดังในท้องถิ่นตนเองหรือเป็นที่รู้จักกันในแวดวงทางภาคอีสานเป็นส่วนมาก ฉะนั้นแรกเริ่มในวงกว้างคนที่จะรู้จักหรือฟังดนตรีและวัฒนธรรมทางอีสานจะยังไม่มีมากนัก แต่จะมีศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก เช่น ต่าย อรทัย, ศิริพร อำไพพงษ์, ไมค์ ภิรมย์พร, ไผ่ พงศธร เป็นศิลปินอื่น ๆ อีกมากมายที่ยังไม่ได้หยิบยกมานั้น…

กระแสความเป็นไทย ตามด้วยหัวใจหรือแค่แฟชั่น

กระแสความเป็นไทย ตามด้วยหัวใจหรือแค่แฟชั่น

สังคมปัจจุบันเป็นยุคสมัยที่รวดเร็ว และมีการสื่อสารที่ว่องไวแตกต่างจากการดำเนินชีวิตของคนยุคสมัยก่อน  กล่าวเพียงไม่นานมานี้ที่ประเทศไทยได้มีการดำเนินชีวิต โดยการพัฒนาทั้งด้านการเป็นอยู่ โครงสร้างพื้นฐาน วัฒนธรรม ความเชื่อ การกิน การเป็นอยู่ที่เปลี่ยนไป ทีละเล็กทีละน้อย เดิมเคยเป็นอย่างไร? ความรู้ความสามารถของมนุษย์เองก็ได้พัฒนา ออกแบบเพื่อตอบสนองความต้องการ เพื่อความสะดวกสบาย และเกิดประโยชน์ที่ดีที่สุดอย่างคุ้มค่าที่สุด จนนาน ๆ ไปกิจวัตรที่เคย ๆ ทำ อาจมองเห็นว่าเป็นเรื่องที่ล้าสมัย จนหลงลืมทำแท้ที่สุดแล้วก็ได้เลือนหายไปทีละอย่าง สองอย่าง จนจะกลายเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่เคยมี                 ด้วยกระแสที่ค่อนข้างดีของละครที่ได้จัดทำออกมาในรูปแบบการอิงเรื่องราวที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของการดำรงชีวิต การเป็นอยู่ การกิน การละเล่น ประเพณีต่าง ๆ วัฒนธรรม การปฏิบัติตัว การแต่งกาย คำพูด ซึ่งเป็นการถ่ายทอดวิถีชีวิตออกมาสู่สายตาผู้คนได้อย่างน่าสนใจ อย่างเช่น เรื่อง บุพเพสันนิวาส และอีกหลากหลายเรื่องราวผ่านหน้าจอทีวีมายังผู้ชมได้รับชมนั้น นอกจากกระแสที่เป็นเรตติ้งในทีวีแล้ว ยังมีกระแสของการปฏิบัติตาม เห็นดีงามคล้อยตามละครเช่น ความชื่นชอบของตัวละครนำไปสู่ความเชื่อมโยงของเรื่องราวที่ดีงามในประวัติศาสตร์ไทยยุคก่อน การเอาวัฒนธรรมของการกินของผู้คนยุคสมัยก่อนกลับมาเรียนรู้รื้อฟื้นความเป็นมาอีกครั้ง อีกทั้งการนำเอาวัฒนธรรมการแต่งกายมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน เกิดเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นน่าค้นหาและแปลกใหม่สำหรับรุ่นหลัง ๆ ทั้งผู้คนที่ต่างชื่นชอบทุกรุ่นทุกระดับ ทุกสาขาอาชีพ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ละครได้นำเสนอด้านดี ๆ ของการใช้ชีวิตที่สามารถให้ข้อคิด และแนวทางการดำเนินชีวิตหลาย…

ความอดทน จะช่วยให้ความรักไปรอดจริงหรือ

ความอดทน จะช่วยให้ความรักไปรอดจริงหรือ

เราคงเคยได้ยินมาบ้างว่า การมีจะมีความรักนั้นเราต้องรู้จักมีความอดทนอดกลั้น เพื่อจะที่รักษาและพยุงความสัมพันธ์ของเราไปให้ตลอดรอดฝั่ง แต่หลังจากรายการพูดคุยต่อตัวต่อรายการหนึ่งได้สะท้อนเรื่องราวออกมาให้เห็นว่า การอดทนไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของความรักที่ดี และความอดทนในบางความสัมพันธ์ก็มีมากจนเกินความพอดี และความอดทนของเรากลายเป็นการทำร้ายใจตัวเอง หรือบางคนอาจจะถึงขั้นทำร้ายร่างกายเลยด้วยซ้ำ มีผู้ประสบปัญหาด้านความรัก ผลัดเปลี่ยนกันมาพูดเรื่องความรักของตนเอง แต่ที่น่าตกใจคือหลายคนมีปัญหาเดียวกัน คือการมีความอดทนมากจนเกินไป อดทนกับความสัมพันธ์ที่เห็นแก่ตัว มีทั้งกรณีที่อดทนทำดีเพื่อคิดว่าจะได้ความรักกลับมาเป็นการตอบแทนความดี หรือบางคนยอมลดคุณค่าของตนเอง ยอมเป็นตัวสำรองของคนอื่น ยอมให้ภรรยาหรือสามีของตนเองไปมีคนอื่น แต่กรณีที่หนักสุดคือการอดทน ยอมให้เค้าทำร้ายร่างกายและยอมเป็นฝ่ายผิดเพื่อรักษาคนคนหนึ่งไว้ เป็นฝ่ายขอโทษก่อนเสมอแม้ตนเองจะเจ็บเจียนตาย คำถามคือ ทำไมคนเหล่านี้ถึงทน ยอมเพราะรัก ทุกคนให้คำตอบนี้ มันอาจจะดูสั้น ๆ เชื่อเถอะว่ามันเป็นคำตอบที่ครอบคลุมทุกคำถามของการอดทนแล้ว แต่มันอาจจะเป็นรักที่มีมากกว่ารักตัวเอง และคาดหวังว่าจะได้รับความรักเป็นสิ่งตอบแทน หากพวกเขาอดทน แต่ความอดทนของคนเราก็ต้องรู้จักใช้ให้ถูกที่ ถูกคนและถูกเวลา ความอดทนที่ใช้ไปกับคนเห็นแก่ตัว ต่อให้ทุ่มเทมากแค่ไหนสิ่งที่ได้กลับมาก็ว่างเปล่าอยู่ดี ต่อให้พยายามแค่ไหน ถ้าคนที่ได้รับไม่เห็นคุณค่า มันก็เหมือนเราวิ่งเพื่อไปถึงเส้นชัยคนเดียว และอีกคนก็เป็นตัวรั้งตัวถ่วงตลอดทาง ความอดทนของบางคนใช้แล้วหมดไป บางคนก็มีความอดทนอยู่น้อยนิดซะเหลือเกิน หรือแท้จริงแล้วไม่ได้รักมากพอที่จะอดทนหรือเปล่า ในขณะที่อีกฝ่าย ใช้ความอดทนล้นเหลือ ทนแล้วทนอีก ทนอย่างมีความหวังว่าวันหนึ่งเขาจะเห็นใจ จะมองเห็นในสิ่งที่เราทำ แต่สุดท้ายเวลาจะเป็นตัวตัดสินเป็นตัวพิสูจน์ หากเราทำในส่วนของเราอย่างเต็มที่แล้ว ยอมมากพอแล้ว อดทนจนถึงที่สุดแล้ววันหนึ่งเราจะสามารถหยุดได้เอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับพลังในการอดทนของแต่ละคน บางคนเจอปัญหาระดับ 3 ความอดทนก็หมดลงแล้ว แต่หลายคนทนจนปัญหาถึงระดับ…

ควรหรือไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเก่าของเราและเพื่อนสนิท

ควรหรือไม่ ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนเก่าของเราและเพื่อนสนิท

เป็นประเด็นร้อนแรงที่มีการถกเถียงกันในโซเชียล การเลิกรากับคนรักเป็นสิ่งที่เกิดเป็นปกติอยู่แล้ว หากเข้ากันไม่ได้ก็เลิกรากันไป แต่ถ้าวันหนึ่งคนที่เคยรัก โคจรมาพบรักกับเพื่อนสนิทที่เรารักมากล่ะเราจะทำอย่างไร มีผู้ใช้โซเชียลจำนวนไม่น้อยถกปัญหาเรื่องนี้ โดย 1 ในผู้ใช้โซเชียลกล่าวถึงเหตุการณ์ที่แฟนเก่าของเรามาคบกับเพื่อนสนิทของตนเองว่า “ต่อให้เราหมดใจ ไม่มีความรู้สึกดีๆให้กับอดีตคนรักแล้วก็เถอะ เราก็คงรู้สึกแปลกๆอยู่ดี” แล้วก็มีหลากหลายความเห็น หลายคนเห็นด้วย และหลายคนเห็นต่าง แท้จริงแล้วอะไรคือปัจจัยในการทำให้คนกลุ่มหนึ่งสามารถยอมรับให้เพื่อนสนิทคบกับแฟนตนเองได้ แต่อีกกลุ่มหนึ่งยอมรับไม่ได้ สาเหตุแรกที่สำคัญที่ทำให้คนไม่สามารถยอมรับให้เพื่อนสนิทของตนเองสามารถคบกับแฟนเก่าได้คือ เพราะยังมีความรู้สึกกับแฟนเก่าอยู่ ยังรักแฟนเก่าอยู่ ดังนั้นการที่แฟนเก่ามาคบกับเพื่อนสนิทตนเองนั้นยิ่งสร้างความเจ็บปวดให้กับตนเองเป็นอย่างมาก และยิ่งเจ็บมากหากเรื่องนี้เพื่อนสนิทของเราก็รู้ดี อันดับต่อมาคือ การเลิกรากันไม่ดี ถ้าอีกฝ่ายทำร้ายความรู้สึกกันอย่างสุด ๆ แน่นอนเวลามีปัญหาเกี่ยวกับแฟน คนแรกที่เราจะบอกคือเพื่อนสนิท แต่ถ้าหากเพื่อนสนิทที่รับรู้ถึงปัญหาแย่ ๆ ของเรา แต่ยืนยันที่จะคบกับแฟนเก่า ก็เป็นการที่ทำให้รู้สึกแย่ได้เช่นกัน อันดับต่อมาคือการที่หลายคนยังรู้สึกไม่สะดวกใจและอึดอัดที่จะเห็นคนรักเก่าของตนเองมาคบกับเพื่อนสนิท แม้จะไม่ได้รักแล้ว แต่ทำให้ระแวงและสงสัยว่าไปแอบสานสัมพันธ์กันตอนไหนและเป็นช่วงเวลาที่คบกับตนเองหรือเปล่า มีอีกหลายสาเหตุมากที่คนเราไม่สามารถยอมรับให้เพื่อนสนิทคบกับแฟนเก่าได้ แต่หลายคนก็ยอมรับได้ ทั้งนี้อาจจะขึ้นอยู่กับความสนิทของเพื่อนคนดังกล่าว หากสนิทกันประมาณหนึ่งก็ยังพอรับได้ แต่ถ้าเป็นเพื่อนที่สนิทคนเดียวในชีวิตก็อาจจะค่อนข้างยอบรับยากเช่นกัน แต่ก็มีคนให้เหตุผลอีกอย่างว่า ถ้าเป็นเพื่อนสนิทจริง ๆ จะไม่มีทางคบกับแฟนเก่าของตนเองแน่นอน  การที่คนสองคนจะคบกัน เราคงไม่สามารถห้ามได้ หากคนทั้งสองไม่ได้มีพันธะกับใคร ไม่ได้เป็นมือที่สามหรือแย่งใครมา ถ้าเพื่อนสนิทของเราจะคบกับแฟนเก่าเรามันก็คงไม่ใช่เรื่องผิด มันขึ้นอยู่กับความแคร์ใจของเพื่อนเรามากกว่า แน่นอนแฟนเก่าเราคงไม่สนใจความรู้สึกของเราหรอก แต่อีกฝ่ายในฐานะเพื่อนสนิทก็ควรมีวิธีถนอมความรู้สึกกับเพื่อนสนิทของตนเองเช่นกัน เพราะเพื่อนสนิทก็สำคัญและความรักที่เกิดก็ขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ต้องขึ้นอยู่กับคนกลางว่าจะรักษาสมดุลกับคนทั้งสองฝั่งไว้ได้อย่างไร…

หมดยุคของรักสามเส้า รักสี่เส้ากำลังมาแรง เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของคนยุคปัจจุบัน

หมดยุคของรักสามเส้า รักสี่เส้ากำลังมาแรง เกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ของคนยุคปัจจุบัน

ถ้าหากได้ติดตามรายการวิทยุหลาย ๆ รายการจะเห็นเรื่องราวของคนจำนวนไม่น้อยที่มีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ การนอกใจกัน โทรเข้ามาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตนเอง หากเป็นเรื่องรักสามเส้า เราก็คงได้ยินกันมานานแล้ว มีมาทุกยุคทุกสมัย แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ของคนสมัยนี้กลับเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนมากขึ้นไปกว่าเดิม เพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของคนมากกว่า 3 เลยทีเดียว แต่อะไรคือปัจจัยให้เกิดความสัมพันธ์เชิงซ้อนแบบนี้                 ตัวแปรหนึ่งที่สำคัญคงไม่พ้นโลกออนไลน์ ไม่ใช่ว่ารักออนไลน์จะไม่มีอยู่จริง แต่ไม่มีรักออนไลน์ที่ไหนประสบความสำเร็จถ้าไม่ได้ผ่านการเจอตัวจริงและทำความรู้จักกันในโลกแห่งความจริงเสียก่อน และด้วยสรรพคุณสื่อสารรวดเร็ว ทั่วถึงนี้ จึงเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้คนมีโอกาสได้เจอกันมากขึ้น และมีช่องทางที่ค่อนข้างส่วนตัวในการติดต่อสื่อสารเป็นสำคัญ หากเปรียบเทียบในอดีตการจะสื่อสารหรือจีบใครสักคนหนึ่ง ต้องใช้จดหมาย กว่าจะเขียนเสร็จ กว่าจะส่งไปรษณีย์ไปถึงก็ใช้เวลาอยู่นานพอสมควร แต่ปัจจุบันเวลาเพียงเสี้ยววิ สามารถที่จะส่ง Direct message หาคนได้หลายคน หรือบางทีจะเลือกคุยพร้อม ๆ กันก็ยังทำได้ เปิดหู เปิดตาให้กว้างไกล เจอคนคุยถูกใจก็สามารถแอบคุยโดยที่รู้กันแค่ 2 คนเท่านั้น เรียกได้ว่า มุมหลบเลี่ยงในการแอบมีปฏิสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว                 ค่านิยมที่เปลี่ยนไป หากเปรียบเทียบในสมัยก่อน การที่ผู้ชายมีภรรยาหลายคนถือว่าเป็นเรื่องปกติ มีการแบ่งชนชั้นวรรณะกัน ผู้หญิงจะถูกสอนให้ซื่อสัตย์และอดทนอดกลั้นต่อสิ่งต่าง ๆ ภายในครอบครัว การหย่าร้างสำหรับคนสมัยก่อนถือเป็นค่อนข้างน่าอายสำหรับผู้หญิงที่ต้องเป็นหม้าย แม้ปัจจุบันสถิติการหย่าร้างจะเพิ่มมากขึ้น แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ยอมหย่าเพราะเหตุผลกล่าวอ้างว่า เป็นห่วงลูกบ้าง หรือยังมีพันธสัญญาต่อกัน คนในกลุ่มนี้จะเลือกหาที่พึ่งทางใจที่อื่น นั่นก็คือการมีคนใหม่ทั้ง…

เปิดมุมมอง Personal Branding น่าเชื่อแค่ไหน

เปิดมุมมอง Personal Branding น่าเชื่อแค่ไหน

ในยุคปัจจุบันที่คนในวงการบันเทิงมีผลต่อความรู้สึกนึกคิดของคน เป็นทั้งตัวอย่าง ต้นแบบ ทั้งในเรื่องที่ดีหรือไม่ดี ยิ่งมีสื่อโซเชียลออนไลน์ที่ข่าวรวดเร็วทันใจ เราสามารถมองเห็นชีวิตผู้อื่นได้แค่ปลายนิ้ว ต่อให้ไม่เคยพบหรือไม่เคยพูดคุยก็ยังสามารถสื่อสารและรู้จักกันได้ นี่แหละคือข้อดีของโลกออนไลน์ แต่เหตุผลเดียวกันนี้เองก็กลายเป็นข้อเสียที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ยิ่งถ้าบุคคลที่มีชื่อเสียงโดยเฉพาะในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง นักร้อง นางแบบ พิธีกร หรือ เน็ตไอดอล แล้วล่ะก็การที่จะใช้ความชื่นชอบ การติดตามไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของตนเองมาเป็นช่องทางในการธุรกิจก็เป็นการต่อยอดที่คนมีชื่อเสียงทั้งหลายนิยมทำ หรือที่เราเรียกวิธีนี้ว่า Personal Branning                 Personal Branning คืออะไร พอพูดว่า Personal Branning หลายคนอาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้นหูเลย แต่ถ้ายกตัวว่า นักแสดงที่มีชื่อเสียงมีผิวที่สวย และหุ่นดี ทำผลิตภัณฑ์ขึ้นมาและใช้ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของตนเพื่อการันตีสินค้าชนิดนั้น ซึ่งก็อาจจะมีทั้งคนที่ใช้จริง และไม่ได้ใช้จริงเช่นกัน หลายคนมีการใช้ activity ประจำของตนเองไปต่อยอด เช่น เป็นคนที่ชอบแฟชั่นและเสื้อผ้า ก็ทำเสื้อผ้าในสไตล์ตนเองออกมาขาย หรือคนที่ชอบทานอาหารเพื่อสุขภาพเป็นประในชีวิตประจำ มีคนสนใจ ก็ทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรของตนเองออกมาขาย ซึ่งแน่ล่ะ ฟังดูแล้วก็ดูเป็นเรื่องที่ดี และปัญหามันมีตรงไหน                 ปัญหาเริ่มต้นเมื่อธุรกิจนี้เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะได้ความสนใจจากผู้บริโภคและนิยมในตัวของบุคคลที่มีชื่อเสียง ทำให้สินค้าที่มีคนดังการันตีน่าสนใจกว่าผลิตภัณฑ์ทั่ว ๆ ไป เป็นช่องโหว่ที่ทำให้คนดังหลายคนใช้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของตนเองมาการันตีสินค้าทั้ง ๆ…

การให้อภัย หัวใจหลักสำคัญของครอบครัว

การให้อภัย หัวใจหลักสำคัญของครอบครัว

รถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ คำพูดเปรียบเปรยถึงผู้ชายที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ มักจะเป็นคนเจ้าชู้เพราะด้วยอาชีพที่ต้องเดินทางโยกย้ายบ่อยๆ จึงทำให้ต้องไปพบปะหรือเจอหญิงสาวคนใหม่ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันว่าในปัจจุบันคนที่ประกอบอาชีพเหล่านี้ยังคงมีนิสัยเจ้าชู้ดั่งคำเปรียบอยู่หรือไม่                 แต่อย่างเช่นกรณีตลกชื่อดังที่มีโอกาสมาออกรายการนั่งคุยช่องหนึ่ง ได้สารภาพต่อหน้าภรรยาและลูกกลางรายการว่าครั้งหนึ่งเคยนอกใจภรรยาไปมีอะไรกับหญิงสาวคนอื่น ในขณะที่ประกอบอาชีพเป็นลิเกอยู่ นั้นคงกลายเป็นเครื่องการันตีได้อย่างแน่นอนว่าในสมัยก่อน ผู้ชายที่ประกอบอาชีพข้างต้นเป็นคนเจ้าชู้จริง แต่เรื่องราวที่น่าสนใจกว่าตัวตลกชื่อดังคนนั้น คือภรรยาของเขาเสียมากกว่า ว่าอะไรที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้สามารถทนต่อการกระทำที่แสนเจ้าชู้นั้นได้ และยังคงประคับประคองชีวิตคู่ได้จนถึงวันนี้ การให้อภัย คือหัวใจหลัก                 ภรรยาของคุณพี่ตลกท่านนี้ ตอบคำถามจากพิธีกรว่าหลักการสร้างครอบครัวและอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวนั้น ต้องมีหัวใจหลักคือการให้อภัยซึ่งกันและกัน ถึงแม้ว่าเรื่องที่พี่ตลกคนนี้จะทำผิดอย่างร้ายแรงมากแค่ไหน การให้อภัยถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่จะสามารถประคองความรักและประคองคำว่าครอบครัวให้อยู่ได้ แต่คงขัดกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปในปัจจุบันที่ผู้หญิงมีความแกร่งมากขึ้นจึงมองว่าเรื่องผิดใดที่ร้ายแรงก็ไม่สมควรที่จะให้อภัย ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับความคิดของแต่ละบุคคลว่าจะเลือกให้อภัยเพื่อประคับประคองสิ่งหนึ่งร่วมกันต่อหรือเลือกที่จะปล่อยเพื่อประคับประคองสิ่งหนึ่งด้วยตัวเองตามลำพัง เรื่องนอกใจไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถยอมรับได้                 ต้องนับถือความคิดและน้ำใจของคุณพี่ภรรยาของตลกท่านนี้เลยว่า สามารถให้อภัยกับสามีเจ้าชู้ที่กล้าไปนอนกับหญิงอื่นได้ หากเป็นยุคปัจจุบันก็คงจะเหลือผู้หญิงประเภทนี้น้อยลงเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความคิดและทัศนคติที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้หญิงยุคใหม่มีความฉลาดมากพอที่จะตัดสินได้ว่าอะไรควรเก็บและอะไรควรตัดทิ้ง แต่ฝ่ายผู้หญิงก็ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญสำหรับเรื่องนี้ซะทีเดียว หากจะแก้ก็ต้องแก้จากต้นตอที่เป็นฝ่ายชายเพราะปัจจุบันมีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่มองว่าเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาและคนรักเป็นเรื่องปกติ มักอ้างแค่เหตุผลแต่เพียงว่าก็แค่มีอะไรกันแต่ไม่ได้รัก ซึ่งมันไม่ใช่เหตุผลแต่มันคือคำแก้ตัวของผู้ชายที่ไม่รู้จักพอ ขอให้ผู้ชายทุกคนจงจำไว้ว่าเรื่องการนอกใจไม่ใช่เรื่องปกติที่ผู้หญิงทุกคนจะสามารถยอมรับได้ และอย่าเอาเหตุผลของการอยู่เพื่อลูกมาเป็นข้อต่อรอง เพราะหญิงยุคใหม่มีความสามารถมากพอที่จะเลี้ยงลูกให้ดีได้โดยไม่ต้องอาศัยผู้ชาย                 เรื่องความรักไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือเรื่องของคนสองคนและยิ่งถ้ามีลูกด้วยแล้วละก็ มันก็จะกลายเป็นเรื่องของคนสามคน สี่คน หรือห้าคนไปโดยปริยาย ฉะนั้น หากยังอยากที่จะประคับประคองคำว่าความรักหรือครอบครัวอยู่ละก็  ก่อนคิดจะทำหรือตัดสินใจอะไรอย่ามองแต่ฝ่ายตัวเองเพียงฝ่ายเดียวเพราะเรื่องใจเขาใจเราก็สำคัญไม่แพ้เช่นกัน

จรรยาบรรณที่ต้องกระทำ หรือจิตใต้สำนึกที่สั่งให้ต้องทำ

จรรยาบรรณที่ต้องกระทำ หรือจิตใต้สำนึกที่สั่งให้ต้องทำ

คนบนโลกโซเชียลต่างพากันแห่ชื่นชมการกระทำของนักร้องและนักแสดงหนุ่มชื่อดังที่กระโดดลงไปช่วยคนนอนบาดเจ็บจากอุบัติเหตุริมถนน ซึ่งถ้าฟังดูก็อาจไม่ได้เป็นเรื่องน่าแปลกอะไร เพราะข่าวพยาบาลสาว ผู้ช่วยพยาบาล แพทย์ หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่กระโดดลงไปช่วยคนบาดเจ็บกลางถนนก็มีให้เห็นอยู่ถมไป                 แต่ความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่คนลงไปช่วยนั้นเป็นใคร มีตำแหน่งอะไร แต่มันอยู่ที่จิตใจและจิตสำนึกของคนเสียมากกว่า เพราะก็มีเหตุการณ์บ่อยครั้งที่มีคนเจ็บนอนอยู่ข้างถนน แต่คนที่เดินผ่านไปมาก็มิได้ใส่ใจหรือเหลียวแล นั้นแสดงว่าไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะกระโดดลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเหล่านั้น แต่ต้องเป็นกลุ่มคนที่มีจิตใจและจิตสำนึกของความเมตตาที่อยากจะช่วยเหลือผู้อื่น                 อย่างกรณีของดาราหนุ่มที่มีบทบาทในชีวิตเป็นถึงนักแสดงชื่อดัง และควบวิชาชีพความเป็นหมอหนุ่มอีกหนึ่งตำแหน่ง ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้น ดาราหนุ่มคนนี้ก็สามารถเลือกที่จะสวมเพียงบทบาทของดาราคนธรรมดาคนหนึ่งและนั่งรถผ่านไปก็ทำได้ แต่เขากลับเลือกที่จะสวมบทบาทเป็นคุณหมอกระโดดลงไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บคนนั้นแทน ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่เขาทำมันคือสัญชาตญาณที่เกิดจากจิตใต้สำนึกของความเป็นหมอ ที่ต้องมีหน้าที่หลักในการช่วยชีวิตและรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บให้รอดพ้นจากความตาย ฟังเช่นนี้แล้วก็น่าปลื้มใจแทนคนเป็นพ่อเป็นแม่นะจริงไหม                 แต่หากมองในอีกมุมหนึ่ง ก็ยังเกิดข้อสงสัยว่าทำไมสังคมไทยปัจจุบันยังคงมีแพทย์หรือพยาบาลที่ไร้จรรยาบรรณเป็นจำนวนมาก นั้นเป็นเพราะเขาไม่เข้าใจหรือรู้สึกเคารพต่อหลักการจรรยาบรรณแพทย์ หรือเพราะเขาขาดจิตสำนึกของการเป็นแพทย์กันแน่ ซึ่งหลักจรรณยาบรรณง่ายๆ ที่คนเป็นแพทย์หรือพยาบาลจำเป็นต้องมีอย่างน้อย 3 ประการดังนี้                 1. ไม่เมินเฉย                 คนที่มีความเป็นแพทย์หรือพยาบาลต้องมีจิตใจหลักในการช่วยเหลือคนอื่น ไม่ละเลยหรือเมินเฉยต่อผู้บาดเจ็บที่อยู่ตรงหน้า มิใช่ว่าไม่ใช่เวลาหรือหน้าที่การปฏิบัติงานของตนก็ไม่จำเป็นที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะคนเป็นแพทย์ต้องไม่มีวันหยุด ไม่ว่าจะไปเจอคนบาดเจ็บเวลาใดที่ไหนต้องพร้อมที่จะลงไปให้ความช่วยเหลืออย่างทันที                 2. ช่วยเหลือด้วยความจริงใจ                 หากคิดจะช่วยแล้วก็ต้องช่วยด้วยความจริงใจที่อยากจะช่วยเขาจริงๆ อย่าเพียงแต่จำเป็นต้องทำเพราะเห็นว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องทำตามเงินเดือนที่ได้รับ หรืออย่าเพียงแต่ทำเพราะสถานการณ์ที่บีบบังคับ ขอให้ทำด้วยความจริงใจและอยากจะช่วยเหลืออย่างแท้จริง มิเช่นนั้นแล้ว การทำหน้าที่ของแพทย์หรือพยาบาลนั้นจะไม่มีความสมบูรณ์แบบเลย                 3. ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ…

แท้จริงแล้วกระแสสังคมดราม่านักแสดง ทำให้เรตติ้งละครตก คือความผิดใคร

แท้จริงแล้วกระแสสังคมดราม่านักแสดง ทำให้เรตติ้งละครตก คือความผิดใคร

คุณคิดว่าเรื่องของพฤติกรรมส่วนบุคคลจะสามารถส่งผลกระทบต่อกระแสสังคมได้มากเพียงใด สำหรับคนทั่วไปหากเกิดเรื่องให้เป็นที่จับตามองนั้นถึงจะกลายเป็นกระแสสังคม แต่ถ้าไม่ดังจริงก็มีเรื่องให้อยู่ในสังคมได้ไม่นานเดี๋ยวก็จางหาย แต่ถ้าเป็นคนของสังคมต่อให้ไม่เป็นกระแสให้จับตามองก็กลายเป็นกระแสสังคมได้                 อย่างกรณีนางเอกดังคนหนึ่งที่กำลังเป็นข่าวอยู่กับชายหนุ่มที่เพิ่งหย่าขาดจากภรรยาที่เพียบพร้อม โดยกระแสสังคมได้ตีความว่าเธอเป็นผู้แย่งผู้ชายคนนั้นมาจากหญิงสาวที่แสนดี แต่เรื่องราวความจริงเป็นเช่นไรก็ไม่มีใครสามารถที่จะให้คำตอบได้อย่างชัดเจน ทำให้ปัจจุบันสังคมให้การโจมตีเธออย่างหนัก เพราะต่างก็เข้าใจว่าเธอกำลังทำผิดในเรื่องของคุณธรรมที่ควรปฏิบัติ แต่ประเด็นที่น่าสนใจและสำคัญกว่าการถูกโจมตีจากคนในสังคม คือกระแสละครที่เธอเล่นเป็นนางเอกทุกเรื่องนั้น มีเรตติ้งที่ลดน้อยลงอย่างถล่มทลาย เรียกได้ว่าน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดคำถามขึ้นต่อมาว่าการที่เรตติ้งตกลงนั้นเกิดจากคุณภาพของละครหรือกระแสจากตัวละครกันแน่                 หากมองในมุมของผู้จัดละครก็คงมีคำถามอยู่ในใจว่า ละครเรื่องนี้มันคุณภาพแย่ขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมกระแสคนดูจึงตกลงได้มากถึงขนาดนี้ แต่ถ้าสาเหตุมันไม่ได้เกิดจากคุณภาพของละครแต่เกิดจากกระแสสังคมที่ต้องการโจมตีนางเอกคนดังกล่าว เช่นนั้นแล้ว ละครเรื่องนี้ผิดอย่างไร การที่คุณโจมตีและต่อต้านผลงานของนักแสดงแต่กลับส่งผลกระทบต่อการทำงานที่มีคุณภาพของผู้จัดละคร คิดว่ามันยุติธรรมกันแล้วหรือ คงไม่มีผู้จัดละครคนไหนสามารถหยั่งรู้ได้ว่าอนาคตเรตติ้งของละครเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อทุกอย่างมันถูกดำเนินการมาอยู่แล้วก็คงทำได้แค่เพียงนำละครเรื่องนั้นออกอากาศตามแผนที่วางไว้ต่อไป อย่างน้อยถึงแม้จะขาดทุนก็ดีกว่าต้องทิ้งไปอย่างเสียเปล่า                 แต่หากมองในมุมมองของตัวนักแสดงเอง ก็คงไม่มีนักแสดงคนไหนที่อยากตกเป็นเป้าหมายกระแสสังคมหรอก เพราะนักแสดงก็แค่เพียงคนธรรมดาคนหนึ่งที่เหมือนกับคนทั่วๆ ไปนั้นแหละ แต่คนธรรมดาเพียงคนเดียวจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปสู้รบตบมือกับกระแสที่ถาโถมเข้ามาอย่างแรง คงทำได้แค่เพียงยินยอมและยื่นหน้ารับกับแรงถาโถมที่เข้าใส่เพียงเท่านั้น ซึ่งถ้าเลือกได้เขาก็คงอยากจะเลือกเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่อยากมีที่ยืนอยู่บนสังคมได้เหมือนคนอื่นอย่างแน่นอน                 ฉะนั้น จงอย่าตัดสินใครแค่เพียงกระแสข่าวที่โจมตี เพราะไม่มีใครรู้ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไรนอกจากตัวของเขาเอง มิเช่นนั้นแล้ว คำพูดหรือการกระทำที่คุณใช้ตัดสินเขานั้นอาจจะไม่ได้หมายถึงความรู้สึกที่สูญเสียของเขาแต่อาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเขาเลยก็ได้